หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

'ชูวิทย์' เริ่มที่ 'บาร์เบียร์' จบที่ 'บาร์เบียร์'

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข


40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ 


ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com 



-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558  


              ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 
เตรียมสอบครูผู้ช่วย


'ชูวิทย์' เริ่มที่ 'บาร์เบียร์' จบที่ 'บาร์เบียร์'


'ชูวิทย์' เริ่มที่ 'บาร์เบียร์' จบที่ 'บาร์เบียร์'

'ชูวิทย์' กับชีวิตที่ฉูดฉาด เริ่มที่ 'บาร์เบียร์' จบที่ 'บาร์เบียร์' : โดย...อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ

 
                      "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์"
 
                      ชีวิตของชายคนนี้โลดโผนยิ่งนัก มีคนชอบพอๆ กับคนเกลียด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเป็นจุดสนใจ 
 
                      หลายคนบอกเขาเป็นนักการตลาดชั้นเยี่ยม หลายคนบอกเขาเป็นนักประชาสัมพันธ์ตัวเอ้ 
 
                      ยามอยู่ในวงธุรกิจ เขาประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ก็อยู่ในธุรกิจที่เรียกกันว่า “สีเทา” ยามอยู่ในวงการเมือง เขาผ่านมาทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เคยถูกครหาเป็น “สีเทา” เป็นไส้ศึก ที่รัฐบาลส่งมาเป็นฝ่ายค้าน 
 
                      แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือไม่ว่าใครจะชอบหรือจะชังเขาอย่างไรเขาจะอยู่ในกระแสสังคมเสมอ
 
                      “ชูวิทย์” เป็นที่รู้จักในวงสังคมอย่างกว้างเมื่อกลางปี พ.ศ.2546 เมื่อปรากฏข่าวตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรื้อบาร์เบียร์ ซ.สุขุมวิท 10 และต่อมาเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่อีกไม่นานก็ปรากฏตัวข้างถนน ย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง ด้วยสภาพอิดโรย ต้องหามส่งโรงพยาบาล และมีคำให้การจากเขาว่า ถูกตำรวจกลุ่มหนึ่งอุ้มไป ท่ามกลางการตั้งคำถามว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่
 
                      จากจุดนี้เอง “ชูวิทย์” เหมือนกับยืนคนละข้างกับตำรวจและทำให้ต่อมาเขาเปิดโปงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของตำรวจอีกหลายๆ อย่าง เช่น ส่วย รีดไถ หรือการปล่อยให้มีการเปิดบ่อนในพื้นที่ และจากนั้นทำให้คนทั่วไปย้อนกลับไปดูว่าเขาเป็นใครมาจากไหน 
 
                      จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียงในวงสังคมเลย หากแต่เขาเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจสีเทา   
 
                      เมื่อเขาจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาก็กลับมาทำธุรกิจของตัวเอง เปิดอาบอบนวดและขยายกิจการจนเป็นเจ้าของอาบอบนวด 6 แห่ง ในเครือ เดวิสกรุ๊ป และนี่เป็นที่มาของฉายา “เจ้าพ่ออ่าง” 
 
                      ถามว่าก่อนนี้สายสัมพันธ์ของเขากับตำรวจเป็นอย่างไร คำตอบง่ายๆ คือดีมาก เขาสนับสนุนการทำงานของตำรวจเรื่อยมา 
 
                      ก่อนหน้านี้หลายๆ แยกใน กทม. เราจะเห็นป้อมตำรวจติดป้ายหราว่า “สนับสนุนโดยมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์” ซึ่งก็คือชื่อของบุตรชายเขานั่นเอง นอกจากธุรกิจอาบอบนวด เขายังเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อ “เดอะ เดวิส” ในซอยสุขุมวิท 24 อีกด้วย 
 
                      จากนั้นเพียงหนึ่งปี คือในปี 2547 “ชูวิทย์” ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคต้นตระกูลไทย แม้จะได้เพียงอันดับสาม พ่าย อภิรักษ์ โกษะโยธิน จากพรรคประชาธิปัตย์ และ ปวีณา หงสกุล ผู้สมัครอิสระ แต่เขาก็กวาดคะแนนมาได้ถึง 334,168 คะแนน ซึ่งถือเป็นคะแนนที่สูงทำให้เขาประกาศกร้าวว่าจะนำพรรคต้นตระกูลไทยลงสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไป 
 
                      แต่ด้วยคะแนนที่สูงนี่เอง ทำให้เขาเริ่มถูกจับตาโดยพรรคการเมืองใหญ่ และที่สุดเขาก็นำพรรคต้นตระกูลไทย ยุบรวมกับพรรคชาติไทย โดยได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และได้เป็น ส.ส. แบบบบัญชีรายชื่อ แต่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ขาดคุณสมบัติ เพราะเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยไม่ครบ 90 วัน จึงพ้นจากความเป็น ส.ส.
 
                      จากนั้นปี 2549 เขาได้ลาออกจากพรรคชาติไทย เพื่อลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรุงเทพมหานคร แต่ก็ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิกถอนสิทธิ เพราะเพิ่งพ้นจากสถานภาพ ส.ส. ไม่ครบกำหนด 1 ปี ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ว.ตามกฎหมาย เขาจึงกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยอีกครั้ง
 
                      อย่างไรก็ตาม หนทางของเขากับพรรคชาติไทยก็ไม่ราบรื่นเมื่อเกิดความขัดแย้งกับ บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จนกระทั่งเดือนตุลาคม พ.ศ.2550 “ชูวิทย์” ประกาศว่าจะไม่ขอลงเลือกตั้งในปลายปีไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตาม หลังได้รับการจัดให้เป็นตัวแทนพรรค สมัครรับเลือกตั้งแบบรายชื่อเป็นลำดับที่ 2 ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยยกลำดับที่ 1 ให้แก่ พล.อ.อัครเดช ศศิประภา อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 
 
                      ครั้งนั้น “ชูวิทย์” ยังโจมตีพรรคชาติไทยที่จากเดิมอยู่คนละข้างกับพรรคพลังประชาชน ของ ทักษิณ ชินวัตร  แต่กลับแสดงท่าทีว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน และได้โจมตี “บรรหาร” อย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องลาออกจากพรรคในที่สุด โดยส่งใบลาออกทางรถจักรยานยนต์รับจ้าง
 
                      จากนั้นเสี่ยอ่างผู้นี้ ก็เสมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “บรรหาร” และพรรคชาติไทย อาทิ ตอนที่ “บรรหาร” ไปหารือร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนการเลือกตั้งปี 2549 ที่ร้านช้อนเงินช้อนทอง เขาก็ไปโชว์เปิบพิสดารหน้าร้านด้วยเมนูปลาไหลต่างๆ อาทิ “ปลาไหลผัดสะตอ” “ต้มโคล้งโครงไก่ใส่ปลาไหล” ซึ่งล้วนแต่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น  
 
                      ต่อมาปี พ.ศ.2551 “ชูวิทย์” หวนกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำสอง เพราะ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” จากพรรคประชาธิปัตย์ ยังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ขณะที่อันดับสอง ตกเป็นของ ประภัสร์ จงสงวน จากพรรคพลังประชาชน ส่วนตัวเองคว้าอันดับสามตามเดิม 
 
                      อย่างไรก็ตาม ก่อนวันเลือกตั้ง “ชูวิทย์” ได้ไปออกรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้ชมทั่วประเทศ เมื่อเขาตรงเข้าไปตีศอกใส่ วิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการ หลังรายการจบ เสี่ยอ่างอ้างวันนั้นว่า ทำไปเพราะโมโหที่พิธีกรถามคำถามไม่เป็นธรรม 
 
                      ในปีเดียวกัน ช่วงเดือนกันยายน  “ชูวิทย์” ได้จดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองอีกครั้งในชื่อ พรรคสู้เพื่อไทย แต่ต่อมาในปี 2552 ก็ถูกยุบพรรคลงเนื่องจากมีสมาชิกไม่ถึง 5,000 คน จากนั้นก็มาจดทะเบียนตั้ง พรรครักประเทศไทย ในปี 2553 และประกาศลงสมัครเลือกตั้งทั่วไปในปี 2554 โดยมีจุดยืนว่าจะเป็นฝ่ายค้านเพื่อเพื่อตรวจสอบรัฐบาล 
 
                      ระหว่างการหาเสียง “ชูวิทย์” สร้างสีสันอยู่หลายครั้ง อาทิ ใช้สุนัขที่เขาเลี้ยงชื่อ “โมโต โมโต้” พันธุ์บูลล์เทอร์เรียร์ เป็นสัญลักษณ์แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ โดยการเลือกตั้งครั้งนั้นพรรครักประเทศไทย ได้รับคะแนนเสียงถึง 998,603 คะแนน ได้ ส.ส. ถึง 4 ที่นั่ง 
 
                      เมื่อเข้าสภาเขาก็สร้างความฮือฮาอีก เช่น ไปนั่งในที่ของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่สภาทำไม่เหมาะสมเพราะให้พรรคของเขานั่งด้านหลัง รวมทั้งการจัดให้พรรคชาติไทยพัฒนา นั่งตรงกลางห้องประชุม ทั้งที่จริงแล้วตามหลักพรรคชาติไทยพัฒนา ควรนั่งฝั่งขวา และในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาก็ได้แสดงคลิปวิดีโอบ่อนการพนันขนาดใหญ่บริเวณถนนรัชดาภิเษก จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
 
                      ในการอภิปรายของเขาทุกครั้งมักมีคลิปประกอบ เช่น คลิปบ่อนพนัน คลิปสถานค้าบริการ หรือกระทั่งเมื่อเกิดความวุ่นวายในสภาเขาก็ยังถ่ายคลิปและเผยแพร่ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนได้รับสมญาว่า “เจ้าพ่อคลิป” 
 
                      ช่วงที่มีการชุมนุมของ กปปส. ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ เขาเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมอยางเผ็ดร้อนหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อเกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เขาก็ถูก คสช. เรียกเข้าไปรายงานตัว แต่จากนั้นก็ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านโซเชียลมีเดียเป็นระยะๆ จนที่สุดวันที่เขาถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ก็มาถึง จากคดีที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจนทางเดินชีวิตก้าวเข้าสู่การเมือง
 

ที่มา ; เว็บ นสพ.คมชัดลึก


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 
เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม