หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

‘ปูติน’ส่งสาส์น-พสนิกรทั่วไทยถวายพระพร

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )

ติวสอบดอทคอม www.tuewsob.com 

-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296

-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558  http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558  

http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html


              ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่  โดย  อ.นิกร


 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

‘ปูติน’ส่งสาส์น-พสนิกรทั่วไทยถวายพระพร


‘ปูติน’ส่งสาส์น-พสนิกรทั่วไทยถวายพระพร

สมเด็จพระบรมฯเสด็จฯแทนพระองค์ไปทรงพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ‘ปูติน’ส่งสาส์น-พสนิกรทั่วไทยถวายพระพร

           เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือวันพ่อแห่งชาติ เมื่อเวลา 17.09 น. วันที่ 5 ธันวาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย เมื่อเสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคลของบรรพชิตจีนและญวน แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ จากนั้นทรงจุดเทียนพระมหามงคล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการหน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์สวดนวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดาบนแท่นซึ่งตั้งอยู่ตรงพระทวารกลาง เสด็จลงจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
 
           จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนสัญญาบัตรพัดยศแด่พระสงฆ์ที่ได้ทรงตั้งสมณศักดิ์ใหม่ หมดแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นนพปฎลเศวตฉัตร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นนพปฎลเศวตฉัตร ทรงกราบ ประทับพระเก้าอี้ ทรงศีล เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนที่ฝาครอบพระกริ่ง เสด็จฯ ไปทรงประเคนครอบพระกริ่งแด่พระสงฆ์ผู้เป็นประธานสงฆ์ เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร เมื่อพระทรงเจริญพระพุทธมนต์จบ ถวายอดิเรก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร จากนั้นเสด็จฯ กลับ
 
 
“ปูติน” ส่งสาส์นถวายพระพรในหลวง
 
           สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เผยแพร่สาส์นถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ราชอาณาจักรไทย กรุงเทพมหานคร ของนายวลาดิมีร์ ปูติน​ ประธานาธิบดีรัสเซีย ความว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและราชอาณาจักรไทยถือได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมีความแน่นแฟ้นยิ่ง ข้าพระพุทธเจ้ามีความเชื่อมั่นถึงอนาคตของการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของสองประเทศในทุกขอบเขต รวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในกิจการระหว่างประเทศที่มีความสอดคล้องกับผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนของเราทั้งสองฝ่าย และรวมถึงมีการอำนวยความสะดวกในการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงปลอดภัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
 
           ในวันอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์และทรงพระเกษมสำราญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
 
           ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้านายวลาดิมีร์ ปูตินมอสโก
 
เอกอัครราชทูตร่วมถวายพระพร
 
           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2558 ที่ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ขณะที่คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ผู้นำเหล่าทัพ สมาชิก คสช. หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และภริยา อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ. ณรงค์พล ณ บางช้าง รองผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฯลฯ
 
           ขณะที่ทางสำนักพระราชวังเปิดให้ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยพระบรมวงศานุวงศ์ ราชสกุล และองคมนตรี จัดให้ลงนามในห้องมุขกระสัน ตะวันออกชั้นล่างของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท, ข้าราชการนักธุรกิจจัดให้ลงนามในศาลาสหทัยสมาคม และประชาชนจัดให้ลงนามในเต็นท์บริเวณสนามหญ้าด้านข้างศาลาลูกขุน
 
           บรรยากาศในช่วงเช้ามีประชาชนจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยมีพสกนิกรบางส่วนเข้าไปสักการะพระแก้วมรกต และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและอยู่เป็นมิ่งขวัญของคนไทย
 
 
“นายกฯ”นำจุดเทียนชัยถวายพระพร
 
           ต่อมาเมื่อเวลา 19.50 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อม นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีนายจรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้อนรับ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา ก่อนที่จะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ โดยประชาชนที่มาร่วมในงานต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญจนกึกก้องท้องสนามหลวง
 
 
ประชาชนแน่นโรงพยาบาลศิริราช
 
           ส่วนที่ศาลาศิริราช 100 ปี มีประชาชนจำนวนมากเข้าชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทางโรงพยาบาลจัดทำขึ้น ต่อมาเวลา 14.00 น. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ และประชาชนทั่วไป ร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล โดยต่างพร้อมใจกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสดุดีมหาราชา และร่วมกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญ
 
           นายจิตติวัฒน์ เตชะรัตนยืนยง อายุ 30 ปี ชาวกทม.มาพร้อมรถเข็นดัดแปลงที่ประดับด้วยพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ธงชาติ และธงสีเหลืองตราพระปรมาภิไธย กล่าวว่า นำแฟ้มหลายสิบแฟ้มที่รวบรวมความรู้สึกประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและข้อความถวายพระพร ซึ่งได้จากการเดินเทิดพระเกียรติในหลวง 88 พรรษา ระยะทางเกือบ 4,000 กิโลเมตร ผ่าน 37 จังหวัด มาทูลเกล้าฯถวาย โดยในแฟ้มมีข้อความไม่น้อยกว่า 1 หมื่นข้อความ เป็นทั้งตัวอักษรและรูปวาด
 
           “การบอกรักพ่อมีหลายวิธี แต่ผมเลือกที่จะเดิน เพราะการเดินทำให้เราสามารถเก็บรายละเอียดได้ มีโอกาสพูดคุยกับประชาชนได้มากขึ้น มีการทักทายกัน พูดคุยกันก็ทำให้เกิดความประทับใจว่า คนไทยยังมีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อต่อกัน ไม่ได้หายไปอย่างที่ใครพูด อีกทั้งยังสามารถบอกชาวต่างชาติได้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย เพียงรู้จักท่องเที่ยว” นายจิตติวัฒน์ กล่าวและว่า นอกจากนั้นวันนี้ยังตั้งใจตัดผมที่เคยไว้ยาว เพื่อเอาผมไปบริจาคให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
 
ชาวไทยเชื้อสายจีนร่วมถวายพระพร
 
           ส่วนบรรยากาศที่บริเวณถนนเยาวราช ตั้งแต่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) จนถึงแยกเฉลิมบุรี ชาวไทยเชื้อสายจีนจาก 160 สมาคม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมใจกันจัดกิจกรรม “ชาวไทยเชื้อสายจีน รวมใจ รวมพลัง เทิดไท้มหาราชา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งฉลองสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย–จีน ปีที่ 40 โดยตั้งแต่เช้าชาวไทยเชื้อสายจีนกว่า 2,500 คนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง “ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad” ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 880 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล
 
           ต่อมาชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งหมดจัดขบวนพาเหรดสิงโต-มังกร และขบวนอุปรากรเอ็งกอ พร้อมริ้วขบวนเทิดไท้มหาราชา 7 ขบวน อัญเชิญป้ายถวายพระพร พานพุ่มซิ่วท้อทองคำ และถวายเครื่องราชสดุดี ซึ่ง “ซิ่วท้อ” ได้แกะสลักเป็นพิเศษจากจีน 8 ชุด จากหน้ามูลนิธิเทียนฟ้า ไปยังมณฑลพิธีซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและภริยา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายหนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เดินทางมาร่วมพิธี
 
           ต่อมานายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการถวายเครื่องสักการะ และซิ่วท้อทองคำที่คนจีนเชื่อว่าเป็นผลไม้สวรรค์ เป็นการอวยพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุยืนนาน เป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมกับข้าราชการและตัวแทนจากชาวไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราช 160 องค์กร กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งภาษาไทยและภาษาจีน ว่า “ทรงพระเจริญ” และ “ว่านซุ่น ว่าน ว่าน ซุ้ย” ดังกึกก้องถนนเยาวราช ก่อนที่จบกิจกรรมด้วยการแสดงโชว์ของคณะสิงโต 88 หัว แปรขบวนเป็นรูปทรงพระเจริญ การแสดงชุดเทพเจ้าแปดเซียน และการแสดงอุปรากรจีน 24 กตัญญู สื่อถึงความกตัญญูที่ชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนมีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
 
ปวงประชาร่วมถวายพระพร
 
           น.ส.บุษกร กลิ่นน้อย อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสวมเสื้อเหลืองถือธงชาติและธงสีเหลืองมีตราพระปรมาภิไธย กล่าวว่า เดินทางมาคนเดียวจาก จ.ประจวบฯ เมื่อช่วงเช้ามืด ตั้งใจจะมาลงนามถวายพระพร จากนั้นจะนั่งเรือข้ามไปโรงพยาบาลศิริราชเพื่อร่วมสวดมนต์ข้ามคืนถวายในหลวง จะอยู่ กทม.ถึงวันที่ 11 ธันวาคม เพื่อร่วมปั่นจักรยานในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ที่ตนลงทะเบียนปั่นที่ กทม.
 
           “ย้อนไปตอนดิฉันอายุ 9 ขวบ ตอนนั้นแถวบ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านก็ทูลขอพระองค์ครั้งที่เสด็จฯ มาประทับที่วังไกลกังวล และเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ หลังจากนั้น 1 ปีเราก็มีไฟฟ้าใช้ มีถนนหนทางเข้ามา ดิฉันตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับ ตอนนั้นจำได้ว่ารู้สึกรักพระองค์มาก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่าพระองค์คือใคร อย่างไรก็ดี ดิฉันรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นลูกพระองค์ ที่ผ่านมาจึงตั้งใจทำความดีเพื่อพระองค์ เป็นความดีเล็กๆ น้อยๆ ที่พอทำได้ เช่น เก็บขยะลงถัง ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส” น.ส.บุษกร กล่าวทั้งรอยยิ้ม
 
           นายธีรพันธ์ เศรษฐนันท์ อายุ 54 ปี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติอีสานใต้ ประกอบด้วยสมาชิกจาก จ.อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ซึ่งนำคณะนักปั่นลงนามถวายพระพรที่บริเวณเต็นท์ข้างศาลาลูกขุน กล่าวว่า ครั้งนี้มีสมาชิกจำนวน 120 คน โดยปั่นเลาะเส้นทางตามจังหวัดต่างๆ ผ่าน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เข้าจ.ปราจีน เข้ากรุงเทพฯ โดยใช้เวลาปั่นทั้งสิ้น 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน–4 ธันวาคม ระยะทาง 788 กิโลเมตร ทุกคนตั้งใจใช้พลังของตัวเองมาถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน หายจากพระอาการประชวร มีพระพลานามัยแข็งแรง
 
           อีกหนึ่งตัวแทนกลุ่มฯ นายณฎฐกฤต กาษี อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า การรวมตัวกันปั่นจักรยานครั้งนี้ เปรียบเสมือนเป็นการแสดงพลังสามัคคีของประชาชนจากหลากหลายจังหวัด ไม่ใช่แค่เพียงเป็นการทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการเอาดวงใจของคนทั้งจังหวัดมาถวายท่านด้วย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือสุดยอดของชีวิต และท่านอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของปวงชนชาวไทยทุกคน
 
           ด้าน นายธีระศักดิ์ ปรีดาศักดิ์ อายุ 68 ปี ตัวแทนสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งเดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรเป็นประจำทุกปีมากว่า 5 ปีแล้ว กล่าวว่า ภูมิใจที่เกิดมาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะทรงมีโครงการพระราชดำริช่วยเหลือให้พสกนิกรอยู่ดีมีสุขต่อเนื่องอย่างมากมาย โดยปีนี้ตัวเองตั้งใจจะขอพรให้มีพระพลานามัยแข็งแรง หายจากพระอาการพระประชวรในเร็ววัน
 
 
คนไทยพร้อมใจทำบุญตักบาตร
 
           ส่วนที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 189 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา โดยมี นายอมร กิจเชวงกุล รอง ผู้ว่าฯ กทม. นายพีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม. นางรัชนีวรรณ อัศวธิตานนท์ นายกิตตินันท์ ขาวสุทธิ์ นางวันทนีย์ วัฒนะ นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกทม. คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากทม. หัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ ลูกจ้างกทม. และประชาชนร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
 
           เช่นเดียวกับที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 07.09 น. นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมเหล่าข้าราชการ ทหาร พลเรือน พ่อค้า และประชาชนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีเหลือง ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 88 รูป ที่บริเวณถนนถลาง ย่านธุรกิจเมืองเก่าภูเก็ต
 
           วันเดียวกัน ที่หน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านมากกว่า 1 หมื่นคน พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลืองร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายพระภิกษุสามเณร 239 รูป ที่อุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวันพ่อแห่งชาติ
 
           เช่นเดียวกับที่ จ.เพชรบุรี ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองออกไปร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 89 รูป ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี โดยมี นายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี
 
 
ร่วมใจถวายพระพร
 
           วันเดียวกัน ที่ศาลาประชาคม จ.พิษณุโลก นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมข้าราชการทุกสังกัด ร่วมทำพิธีถวายพระพร และลงนามถวายพระพร ถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นข้าราชการที่ดี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา จากนั้นวงดุริยางค์ได้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ได้ทำพิธียิงสลุตหลวง 21 นัด เพื่อเป็นการถวายพระพรชัยมงคล เป็นการแสดงความเคารพ ในการเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
 
           ขณะที่ชาวกะเหรี่ยง หมู่บ้านสาละวะ หมู่ 4 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทั้งหมด 150 คน ได้ร่วมกันร้องเพลงเป็นภาษากะเหรี่ยง เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แปลเป็นภาษาไทยได้ใจความว่า “ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ..ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...ร้อยๆ ปี ขอให้พระชนมายุยิ่งยืนนาน...ภายใต้ร่มพระบรมเศวตฉัตร ขอให้พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล ขอให้ตลอดพระชนม์ชีพทรงมีแต่ความสุข..ร่มเย็น..ดุจดั่งสายน้ำ ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง..ดุจดั่งภูผา ขอพระเกียรติคุณแผ่ไพศาล..ไปทั่วหล้า..ดุจกลิ่นหอมแห่งมวลดอกไม้ป่า...ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร..ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท..เหล่าพสกนิกรล้วนมีความสงบสุข ด้วยพระบุญญาธิการ..แผ่นดินทอง..แห่งนี้จึงสุกสกาว ทุกคนทั่วหล้า..ต่างพากันแซ่ซ้องสรรเสริญ เหล่าปวงประชา..ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้เกิดมาเป็นพสกนิกรของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ความรัก...ความเมตตา..ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระราชทานให้ตลอดพระชนม์ชีพ จะจดจำมิลืมเลือน ความรัก..ความเมตตา..ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระราชทานให้ตลอดพระชนม์ชีพ จะจดจำมิลืมเลือน”
 
 
ธันวาคมเดือนแห่งความสุข
 
           พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยพร้อมใจน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน โดยในวันนี้ประชาชนสามารถร่วมลงนามถวายพระพรได้ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง และสถานที่ต่างๆ ที่จัดไว้ทั่วประเทศ รวมทั้งร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมกันในเวลา 19.29 น. เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี
 
           พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้เดือนธันวาคมเป็นเดือนแห่งความสุขของประชาชน และเชื่อมั่นว่าหัวใจของคนไทยทุกคนมีในหลวงเป็นจุดยึดเหนี่ยวร่วมกัน ทุกภาคส่วนจึงพร้อมใจจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน โดยเวลาอันใกล้นี้รัฐบาลจะจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตลอดจนรวมพลังคนไทยทั้งในประเทศและทั่วทุกมุมโลกสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในกิจกรรม “Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ” ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้
 
           “นับจากนี้ไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของประชาชน รัฐบาลจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ร่วมกันสอดส่องดูแลบ้านเมืองไม่ให้เกิดเหตุร้าย และไม่หลงเชื่อข่าวลือที่อาจทำลายบรรยากาศแห่งความสุข การเดินทางท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนโดยส่วนรวม” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
 
 
ขบวนรถจักรยานแปรอักษร
 
           จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานเทศบาลตำบลพระแท่น อ.ท่ามะกา นายทรงศักดิ์ โชตินิติวัฒน นายกเทศมนตรีตำบลพระแท่น พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลพระแท่น ได้มอบจักรยานแก่ผู้ด้อยโอกาส 100 คัน ก่อนจัดขบวนปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีนักปั่นจักรยานเข้าร่วมกว่า 400 คัน ปั่นออกจากเทศบาลตำบลพระแท่น ผ่านตลาดเทศบาลตำบลพระแท่น และปั่นไปตามเส้นทางที่กำหนด ไปสิ้นสุดที่สนามหน้าโรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง รวมระยะทาง 10 กม. จากนั้นขบวนจักยาน 88 คัน ได้ไปร่วมกันแปรอักษรเป็นเลขเก้า (๙) ที่บริเวณหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา
 
           ส่วนที่ จ.อ่างทอง ชาวบ้าน ครู นักเรียน ใน ต.ป่างิ้ว อ.เมือง พร้อมใจกันสร้างสรรค์ราวสะพานบนถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ที่เรียบๆ ให้มีสีสัน โดยช่วยกันทาสีใหม่ พร้อมเขียนข้อความ “BIKE FOR DAD ปั่นเพื่อพ่อ” ไว้ที่ราวสะพาน และตั้งกระถางต้นมะขามเทศดัด เป็นรูปคนปั่นจักรยาน 3 ต้น พร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประดับไว้บนราวสะพานอย่างสวยงาม
 
           นายเอนก สีเขียวสด อายุ 60 ปี เจ้าของฟาร์ม “เอนกฟาร์มนกกระทา” กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชาวบ้านในชุมชนจึงพร้อมใจมาทำสิ่งดีๆ เพื่อเป็นการแสดงถึงความกตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ เป็นการแทนคุณแผ่นดิน ส่วนต้นมะขามเทศที่นำมาดัดนั้น เป็นไม้มะขามเทศที่ขึ้นตามริมทาง ไม่มีมูลค่าราคาอะไร จึงนำมาทำให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้น โดยยึดหลังความพอเพียงตามที่พระองค์ท่านทรงสอน นำสิ่งที่เรามีอยู่มาทำให้สวยเพื่อเพิ่มมูลค่าและประหยัด
 
 
“กินฟรี-รักษาฟรี” วันพ่อ
 
           ขณะเดียวกันบรรดาหมอและพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันร่วมทำความดี เปิดรักษาฟรี กินฟรี เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ที่ จ.พิษณุโลก นายธนา เธียรธนู เจ้าของร้านไก่ทอดจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เปิดให้ลูกค้ากินฟรี โดยติดป้ายไว้ที่หน้าร้านว่า “เนื่องในวันพ่อ วันนี้กินฟรีครับ”
 
           นายธนา กล่าวว่า ตั้งใจร่วมทำบุญในวันพ่อ วันนี้จึงไม่คิดเงินลูกค้า ซึ่งตนทำมาติดต่อกัน 4 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ช่วงวันพ่อก็เปิดให้ลูกค้ากินฟรี พอย้ายกลับมาขายไก่ทอดที่บ้านเกิดก็ให้ลูกค้ากินไก่ทอดฟรีในวันพ่อ และวันแม่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ประหยัดไป 1 มื้อ
 
           เช่นเดียวกับร้านข้าวหมูแดงแสงศรี (ตี๋) เลขที่ 33 ถนนตันรัตนากร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ของนายกำพลและนางพิศสมร สุปิยชัย สามีภรรยา ได้ทำข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และข้าวกุนเชียง 1,500 ห่อ แจกให้ชาวบ้านรับไปกินฟรี
 
           นางพิศสมร เปิดเผยว่า ตนและสามีเป็นคนต่างจังหวัด มาตั้งรกรากและเปิดร้านข้าวหมูแดงที่ อ.หาดใหญ่ มานานร่วม 20 ปีแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา จึงอยากตอบแทนสังคม พร้อมคืนกำไรให้ลูกค้า และตั้งใจทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์ทรงเสียสละพระวรกายในการประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ได้อยู่อย่างร่มเย็น พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำความดี จึงได้ยึดหลักของพระองค์ท่านมาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ในการทำความดีตามกำลังความสามารถของตน พร้อมแบ่งปันน้ำใจสู่สังคม โดยทำติดต่อกันมา 3 ปี แล้ว
 
           เช่นเดียวกับ นพ.สนธยา วัฒนโกศล ที่รู้จักกันดีในนาม “หมอผู้ใจบุญ” เจ้าของคลินิกหมอสนธยา ตั้งอยู่ริมถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์เปิดได้เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีชาวบ้านมาเข้าคิวรอรับบริการตรวจรักษากันตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะเดียวกันมีผู้มีจิตศรัทธา และห้างร้านต่างๆ กว่า 100 ราย นำอาหาร น้ำดื่ม แจกจ่ายให้ประชาชนที่มาตรวจรักษา ได้ดื่ม กินฟรี ด้วยเช่นกัน
 
           นพ.สนธยา กล่าวว่า อดีตเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แล้วลาออกมาเปิดคลินิกได้นานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากสมเด็จย่าเสด็จสวรรคตเมื่อปี 2538 ก็เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรีแก่ประชาชนที่เจ็บป่วย และมีฐานะยากจนเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง คือวันที่ 5 ธันวาคม และ วันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 20 แล้ว โดยใช้งบประมาณส่วนตัวในการซื้อเวชภัณฑ์ยา นอกจากนั้นยังมีทีมแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ และผู้มีจิตอาสามาช่วยให้บริการตรวจรักษาและแจกจ่ายยาแก่ผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการอีกด้วย
 
 
“ชัช” ฮีโร่กระบี่ รับเครื่องราชฯ
 
           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสำนักนายกรัฐมนตรีมีประกาศเรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 5,184 ราย ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้ที่ได้รับเครื่องราชฯ อันทรงเกียรติ มีนายชัช อุบลจินดา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/30 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ฮีโร่ชาวกระบี่ ที่ช่วยสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ติดโคลนริมเขื่อนหน้าเมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์" สร้างความปลาบปลื้มแก่นายชัชและครอบครัวเป็นอย่างมาก ที่นายชัชเป็นแบบอย่างการทำความดีจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ และมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
           นายชัช กล่าวหลังเข้าร่วมพิธีรับเสื้อพระราชทาน Bike for Dad ด้วยสีหน้าปลื้มปีติน้ำตาคลอว่า หลังทราบว่าได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะได้รับเกียรติสูงถึงเพียงนี้ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และรู้สึกดีใจที่ได้มาอยู่ ณ จุดนี้
 
           "เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ ขอให้ทุกคนช่วยกันทำความดี ไม่จำเป็นต้องเหมือนผมก็ได้ โดยไม่ต้องหวังผลอะไรสักวันหนึ่งความดีก็จะกลับมาตอบแทนตัวเราเอง และขอให้ลูกๆ ทุกคนเชื่อฟังพ่อ เพราะสิ่งที่พ่อแม่สอนนั้นก็เพื่อให้เป็นคนดี และขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือจนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น” นายชัช กล่าว
 
           นางหนูแข บุญชู อายุ 71 ปี มารดาของนายชัช กล่าว่า รู้สึกปลื้มใจมากที่ลูกชายได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเกียรติแก่ครอบครัว และขอให้ลูกทำดีเป็นแบบอย่างที่ดีของชาวกระบี่ตลอดไป
 
           นางศิวาภร ศรีมะโรง อายุ 49 ปี ภรรยานายชัช กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจจนพูดไม่ถูก ภูมิใจในตัวสามีที่เป็นคนดีช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และอยากให้ลูกๆ ทุกคนดูพ่อหลวงเป็นตัวอย่าง

ที่มา ; เว็บ  นสพ.คมชัดลึก


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

ติวสอบดอทคอม "  โดย อ.นิกร 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม