-1.กำหนดการสอบครูผู้ช่วย (กรณีพิเศษ)
กำหนดกสอบครูผู้ช่วย (กรณีปกติ)
- คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
‘เครื่องฉีดพ่นยุง’ต้นเหตุไฟไหม้เอสซีบีจริงหรือ?
ไขปริศนา‘เครื่องฉีดพ่นยุง’ต้นเหตุไฟไหม้เอสซีบีจริงหรือ? : สิทธิชัย นครวิลัย / วิศิษฏ์ ชวนพิพัฒน์พงศ์รายงาน
เหตุเพลิงไหม้ห้องเก็บเอกสาร ชั้น 10 อาคารธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่รัชโยธิน มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พร้อมตั้งข้อสงสัยไปต่างๆ นานา เพราะธนาคารกำลังมีปัญหากับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่จู่ๆ ก็มีแก๊งลักเงินฝากในบัญชีของ สจล.ไปกว่า 1.7 พันล้านบาท โดยที่ทางธนาคารถูกมองว่าไม่ให้ความร่วมมือเรื่องเอกสารสำคัญเท่าที่ควร
กรณีเพลิงไหม้จึงกลายเป็นทฤษฎีใหม่ว่า อาจเป็นการเผาทำลายหลักฐาน!
แม้ว่าผู้บริหารธนาคาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมานั่งยันนอนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อเกิดกระแสขึ้นแล้วจะไปห้ามไม่ให้ใครต่อใครสงสัยย่อมไม่ได้ หนำซ้ำเรื่องราวยังชวนหัว เต็มไปด้วยปริศนามากขึ้นไอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าความสงสัยว่าเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้ ไปยัง "กลุ่มพนักงานฉีดพ่นกำจัดยุง" ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ 1 วัน ตำรวจถึงขนาดเรียกอุปกรณ์ที่พนักงานบริษัทกำจัดยุงใช้งานในช่วงก่อนเกิดเหตุ ไปส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) พร้อมเชิญตัวพนักงาน 4 คนที่ปฏิบัติงานในวันเกิดเหตุที่อาคารเอสซีบีปาร์คมาสอบปากคำ ประหนึ่งว่าการฉีดพ่นยุงนั้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
เรื่องนี้ต้องบอกว่ากลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียว!
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่าง จึงนำข้อสงสัยของสังคมไปสอบถามนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่การฉีดพ่นยุง ซึ่งเราเห็นกันชินตาตามชุมชนหมู่บ้านและบริษัทห้างร้านต่างๆ จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีถึงขั้นเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ได้ขนาดนี้
ดร.อุษาวดี ถาวระ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการพิเศษ (กีฏวิทยา) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การฉีดพ่นยุงไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เพราะบริษัทที่จะกำจัดแมลงจะต้องใช้สารเคมีที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น ซึ่งกำหนดไว้เป็นเบื้องต้นว่าจะต้องเป็นสารเคมีที่ไม่มีส่วนประกอบของวัตถุไวไฟ หรือไม่ใช้สารเคมีที่ติดไฟได้ง่าย
ดร.อุษาวดี บอกต่อว่า บริษัทที่จะดำเนินกิจการกำจัดแมลงจะต้องเข้ารับการอบรมขั้นตอนการกำจัดแมลงบนอาคารสูง และต้องผ่านหลักสูตรดังกล่าวจนได้รับใบประกาศนียบัตร สำหรับนำไปใช้อ้างอิงมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการได้
"เชื่อว่าธนาคารไทยพาณิชย์จะต้องทำสัญญาผูกพันในการดูแลอาคารสถานที่ และจะต้องจ้างเอกชนที่มีใบอนุญาต ผ่านการอบรมที่จะสร้างความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย คงไม่เรียกใช้บริการเอกชนจากใบโฆษณาที่ติดตามเสาไฟฟ้าแน่นอน ฉะนั้นการฉีดยุงบนอาคารไม่น่าเกี่ยวข้องกับการเกิดเพลิงไหม้"
ดร.อุษาวดี ยังอธิบายถึงสารเคมีที่ใช้ในการฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงบนอาคารสูงว่า "ไพรีทรอยด์" เป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบสารสกัดจากธรรมชาติที่พบในพืชตระกูลดอกเบญจมาศ (chrysanthemum) และถูกกำหนดให้ใช้ฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงบนอาคารสูง เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงกับคนหรือผู้ใช้ มีข้อเสีย คือ แมลงมีโอกาสสร้างภูมิต้านทานได้สูงเช่นกัน แต่ยังมีความปลอดภัยกว่า "ดีดีที" สารเคมียุคก่อนหน้านี้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยไม่ปรานีทั้งคนและแมลง
ส่วนการฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงภายนอกอาคาร จะมีสารเคมีที่บางผลิตภัณฑ์นำน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันโซลาเป็นส่วนผสมในอัตราส่วน 1 ลิตรต่อพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร หรืออาจผสมสารเคมีอื่นแตกต่างกันไป เช่น ไซเพอร์เมทริน เดลต้าเมทริน หรือวัตถุออกฤทธิ์ที่มีชื่อสารเคมีลงท้ายว่า "เมทริน"
ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นไพรีทรอยด์ หรือเดลต้าเมทริน ก็ล้วนเป็นสารเคมีประเภทสารสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ แต่วัตถุประสงค์การใช้แตกต่างกันไปเพื่อให้เกิดความเหมาะสมทั้งในด้านการกำจัดแมลง และยังมีความปลอดภัยกับคนและสิ่งแวดล้อม
นายสุชาติ ลีละยุทธโยธิน อดีตนายกสมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลงแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาสมาคม กล่าวว่า หากการเกิดเพลิงไหม้ธนาคารเกิดขึ้นเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว มีโอกาสสูงที่การฉีดพ่นกำจัดยุงบนอาคารสูงจะเป็นสาเหตุ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว อย.ยังไม่มีการฝึกอบรบ ยังไม่มีผู้ควบคุมการใช้สารเคมี และผู้รับจ้างกำจัดแมลง
แต่ปัจจุบันนี้เนื้อหาการอบรมจะมีการเรียนรู้ทั้งด้านวงจรชีวิตของแมลงแต่ละประเภท การใช้เครื่องมือต่างๆ และข้อกฎหมายที่จำเป็นต้องเรียนรู้ ตลอดจนขั้นตอนการทำงานทั้งหมดที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน เน้นให้คนทำงานมีความปลอดภัย และคนที่พักอาศัยก็ต้องมีความปลอดภัยด้วย
"แต่เดิมการกำจัดยุงบนอาคารสูง ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ ใช้วิธีการอบ Thermal Fogging ซึ่งน้ำยาเคมีจะผสมน้ำมันดีเซล ทำให้สารเคมีที่ผสมกันมีจุดเดือดต่ำ เพื่อทำให้เกิดละอองไอน้ำมันฟุ้งกระจายในบรรยากาศ แต่มันไม่มีความปลอดภัยจากส่วนผสม และปัจจุบันเชื่อว่าไม่มีใครนำมาใช้แล้ว"
"อีกทั้งในแง่ของการทำงานตามความเป็นจริง วิธีการฉีดพ่นยุงด้วยการอบ Thermal Fogging ก็ไม่ควรนำมาใช้ เพราะอาจทำให้ระบบตรวจจับควันไฟในอาคารทำงานได้"
อย่างไรก็ดี เขาบอกว่า ปัจจุบันการกำจัดยุงโดยการฉีดพ่นให้เกิดละออง ใช้ระบบปั๊มลม เพื่ออัดน้ำยาเคมีให้เกิดละอองแทนการใช้น้ำมันดีเซลหรือโซลาแล้ว ส่วนการเลือกใช้สารเคมีก็มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ อย.อนุญาตเท่านั้น
สำหรับการฝึกอบรม กฎหมายบังคับให้บริษัทที่จะดำเนินกิจการต้องส่งคนเข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และต้องสอบข้อเขียนให้ผ่าน 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งการฝึกอบรมของไทยจัดอยู่ในมาตรฐานระดับสากล
ด้าน นักวิทยาศาสตร์ด้านเคมี จากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ยาพ่นไล่ยุง เป็นสารเคมี deltamethrin ซึ่งต้องใช้น้ำมันก๊าดหรือน้ำมันดีเซลเป็นตัวเจือจาง เช่น ผสมยา 1 ลิตร ต่อน้ำมันก๊าด 80 ลิตร ฉีดพ่นเป็นหมอกควัน แต่ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดไฟไหม้ ถ้าฉีดพ่นแล้วไม่ได้มีเปลวไฟในขณะนั้น แม้ว่าจะใช้น้ำมันเป็นตัวทำให้เกิด aerosol ก็ตาม ยิ่งถ้าผ่านไปแล้วเป็นวันๆ ด้วย ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ส่วนที่เกรงว่าควันจากที่พ่นไล่ยุ่งจะไปรบกวนการทำงานของเครื่องตรวจจับควันไฟในอาคารนั้น นักวิทยาศาสตร์รายนี้ บอกว่า ควันหรือ aerosol ต่างๆ ปกติแล้วจะหายไปในเวลาไม่นานนักหลังจากฉีดพ่น จึงไม่น่าไปอยู่ในระบบที่จะไปรบกวนการตรวจจับได้
อย่างไรก็ดี เขาอยากให้รอฟังผลการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง แต่โดยหลักการแล้วต้องมี "ประกายไฟ" เกิดขึ้นมาก่อน ไม่เช่นนั้นก็ไม่น่าจะติดไฟได้
เช่นเดียวกับ นักประดิษฐ์เครื่องมือและอุปกรณ์นิรภัยชื่อดัง ที่กล่าวในทำนองเดียวกันว่า "ต้องมีเปลวไฟมากพอถึงจะทำให้เกิดไฟไหม้จากการฉีดพ่นยากันยุงได้"
จากข้อสังเกตทั้งหมดนี้ ย่อมสรุปได้ว่าบทหนักในการไขปริศนาเพลิงไหม้ห้องเก็บเอกสารของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ย่อมตกอยู่ที่ "กองพิสูจน์หลักฐาน" ซึ่งจะเป็นผู้ไขคำตอบได้ดีที่สุด ส่วนผลที่ออกมาจะคลายความสงสัยของสังคมได้หรือไม่...เร็วๆ นี้คงรู้กัน
ที่มา ; เว็บ นสพ.คมชัดลึก
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (อ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น