หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผลการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ กรอ.อศ.

เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)

 1.กำหนดกสอบครูผู้ช่วย (กรณีปกติ)

3.เครื่องแบบพนักงานราชการ  2557

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่ล่าสุด

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 72/2558ผลการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ กรอ.อศ.
ศึกษาธิการ - พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม "คณะอนุกรรมก​ารร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา​กลุ่มอาชีพ" เพื่อสนับสนุนการทำงานของ "คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.)" ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ
   
   

ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


โดย www.tuewsob.com  

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องเตรียมสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา) 
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkruthailand.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 


ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)  

ยกร่างเอาจนได้ นายกฯคนนอก

เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)

 1.กำหนดกสอบครูผู้ช่วย (กรณีปกติ)

3.เครื่องแบบพนักงานราชการ  2557

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่ล่าสุด

 ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 

ยกร่างเอาจนได้ นายกฯคนนอก


กมธ.แสลงคำ‘ลากตั้ง’ พท.-ปชป.ดาหน้าค้าน
ฝ่ายการเมืองดาหน้าถล่ม กมธ.ยกร่าง ปชป.-พท.ผนึกต้านสูตรพิสดาร “นิพิฏฐ์” จวกทำลายหลักการถ่วงดุลหวังตั้งรัฐบาลแห่งชาติ “จุรินทร์” โวยลดบทบาทอำนาจรัฐสภา “ปึ้ง” ข้องใจจ้องบอนไซนักเลือกตั้ง “วรวัจน์” บอกประชาธิปไตยของไทยจบลงแล้ว ปล่อยผี 111-109 แค่ละครลวงโลก เด็ก ชพน.ของขึ้นซัดน่ารังเกียจ-น่าอดสูที่สุด ให้คนไทยจารึกพวกบ่อนทำลาย ปชต. “นิคม” เย้ยยิ่งกว่าสภาผัว-เมีย “ดิเรก” ค้านประเคนอำนาจล้นฟ้า “บวรศักดิ์” เต้นสื่อตั้งฉายา ส.ว.ลากตั้ง “บรรเจิด” ฟุ้งเจ๋งกว่าเลือกตรง ถกต่อเปิดช่องคนนอกนั่งนายกฯ เสริมอำนาจผู้นำรัฐบาลผสมกันพรรคร่วมต่อรองหนัก “บิ๊กตู่” พร้อมเป็นพยานให้ “มาร์ค” แต่ขอส่งเอกสาร แทน สวนกลับจะพูดอีกไหมว่าไล่ล่าข้างเดียว ตะโกนใส่มีชายชุดดำยิงทหาร น้อมรับสั่งฯ “อย่าไปเกลียดใครเขามากนัก” นศ.กดดัน “สมคิด” ทบทวนคำสั่งไล่ออก อาจารย์สมศักดิ์
หลังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทยอยเปิดโมเดลที่มาและอำนาจหน้าที่ ส.ส. และ ส.ว. ทำให้ ฝ่ายการเมืองทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พร้อมใจกันออกมาถล่มแนวคิดดังกล่าว เป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับอำนาจประชาชน
“บวรศักดิ์” เต้นสื่อตีข่าว ส.ว.ลากตั้ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่โรงแรม ฮอลลิเดย์ อินน์ พัทยา จ.ชลบุรี มีการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนอกสถานที่เป็นวันที่สี่ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดี ระบบผู้แทนที่ดี หมวดคณะรัฐมนตรี โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่ามีสื่อ หนังสือพิมพ์บางฉบับ สถานีโทรทัศน์บางแห่ง นำเสนอข่าวการประชุม กมธ.ยกร่างฯเรื่องที่มาของวุฒิสภาว่าเป็น ส.ว.จากการลากตั้งว่าเป็นการนำเสนอไม่ครบ ถ้วน ไม่น่ารัก เนื่องจากวุฒิสภาชุดใหม่จะมาจากการเลือกตั้งทางอ้อม โดยมาจากบุคคลที่มีความหลากหลาย ทั้งผู้ทรงคุณวุฒิและคุณธรรมด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม รวมไปถึงด้านสังคม ชาติพันธุ์ ปราชญ์ชาวบ้าน
อ้างต้องผ่านการเฟ้นหลายขั้นตอน
นายบวรศักดิ์กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาแล้ว ต้องนำเสนอบัญชีรายชื่อให้สมัชชาพลเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นที่มาจากการเลือกของประชาชน ทำการเลือกผู้ที่จะเป็น ส.ว. ดังนั้น การกล่าวหาว่า เป็น ส.ว.ลากตั้งจึงไม่ถูกต้อง ในต่างประเทศก็มีการใช้กระบวนการเลือก ส.ว.เช่นนี้ เช่น ประเทศฝรั่งเศส การใช้เสรีภาพของสื่อตนไม่ได้มีปัญหา คอลัมนิสต์จะแสดงความคิดเห็นอย่างไรถือว่าเป็นเสรีภาพ แต่การนำเสนอข่าว การพาดหัว หรือการ อ่านข่าวของนักอ่านข่าว จำเป็นต้องนำเสนอให้ครบถ้วนรอบด้านและปราศจากอคติ มิเช่นนั้นประชาชนจะได้รับข่าวสารเพียงด้านเดียว
“บรรเจิด” ฟุ้งเจ๋งกว่าเลือกตั้งตรง
นายบรรเจิด สิงคะเนติ กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าระบบการเลือก ส.ว.ชุดใหม่เป็นระบบลากตั้งนั้นไม่เป็นความจริง ระบบการเลือกตั้งทางอ้อมเป็นประชาธิปไตยที่มีเนื้อหาและประสิทธิภาพมากกว่าการเลือกตั้งโดยตรงที่ถูกผูกขาดโดยกลุ่มการเมือง กลุ่มนายทุนสนับสนุน ยืนยันว่าระบบนี้มีใช้ในหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมัน ไอร์แลนด์ เมื่อถามว่า มีประเทศไหนในโลกที่ให้ ส.ว.สรรหามีอำนาจทั้งเสนอกฎหมายและถอดถอน นายบรรเจิดตอบว่า อย่างเยอรมัน ส.ว. มีหน้าที่เพียงเสนอกฎหมาย ส่วนอำนาจถอดถอนเป็นของ ส.ส. แต่คงต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งว่ารูปแบบ ส.ว.ของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร แต่รูปแบบ ส.ว.ของไทยที่กำหนดไว้ล่าสุด ไม่ได้มีอำนาจมาก ถึงแม้จะมีอำนาจเสนอกฎหมายได้ แต่การถอดถอนก็ต้องใช้เสียงร่วมกันของรัฐสภา
ล็อกสเปกที่มา ปธ.สภาและรองฯ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯ แถลงว่า ในส่วนที่ 4 บทที่ใช้ แก่สภาทั้งสองส่วนใหญ่ นำหลักการของรัฐธรรมนูญ 50 มาบัญญัติไว้ แต่มีการเพิ่มบางมาตราเพื่อให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น ในมาตรา 135 กำหนดให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้งของ ส.ส. จากพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่มีคะแนนสูงสุด รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งมาจากพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่มีคะแนนเป็นอันดับสอง และรองประธานสภาฯคนที่สอง มาจากผู้ที่ได้คะแนนเป็นลำดับสาม เพื่อเป็นหลักประกันให้รองประธานสภาฯมาจากฝ่ายค้านด้วย โดยห้ามประธานสภาฯและรองประธานสภาฯเป็นกรรมการบริหาร ห้ามเข้าร่วมประชุมพรรค การเมืองหรือกลุ่มการเมือง ส่วนมาตรา 145 กำหนดให้ ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือติดตามการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ
ห้ามนายกฯ–รมต.เบี้ยวกระทู้
นายคำนูณกล่าวอีกว่า มาตรา 149 กำหนดให้อำนาจวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 40 คน สามารถตรา พ.ร.บ. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญได้ โดย จะต้องเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาก่อน 3 วาระก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป แต่เอกสิทธิ์การยืนยันร่างกฎหมายยังเป็นอำนาจของ ส.ส.เช่น เดิม รวมทั้งหากเป็นประชาชนไม่น้อยกว่า 10,000 คน เข้าชื่อเสนอกฎหมาย สภาต้องพิจารณาภายใน 180 วัน และหากมีการยุบสภา ร่างกฎหมายของประชาชนจะไม่ตกไป และนำมาพิจารณาต่อในสภาชุดใหม่ทันทีโดยไม่ต้องรอให้คณะรัฐมนตรียืนยัน และในกรณีที่มีการตั้งกระทู้ถามสดของ ส.ส. ส.ว. นายกฯหรือรัฐมนตรี มีหน้าที่ต้องตอบโดยเร็ว เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญยังไม่มีการวางหลักบทลงโทษแก่นายกฯหรือรัฐมนตรีที่จงใจไม่มาตอบกระทู้ เพราะเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจิตสำนึกและมาตรการสังคมจะลงโทษเอง
เปิดช่องให้คนนอกนั่งนายกฯ
จากนั้นช่วงเย็น นายคำนูณแถลงอีกรอบว่า สำหรับมาตรา 173 กำหนดให้มีนายกรัฐมนตรี 1 คน และมีรัฐมนตรีไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็น ครม. โดยห้ามนายกฯดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินกว่า 2 วาระ และไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. หรือหาก ส.ส.ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯต้องลาออกจาก ส.ส. โดย กมธ.ยกร่างฯเชื่อว่าในสภาวะปกติ สภาฯ จะเลือกนายกฯมาจาก ส.ส. เว้นแต่ในสถานการณ์ไม่ปกติอาจนำคนนอกมาดำรงตำแหน่งได้ และก่อนที่นายกฯจะนำรายชื่อรัฐมนตรีขึ้นกราบบังคมทูลฯ ต้องนำรายชื่อส่งให้ประธานวุฒิสภา จัดให้มีการประชุม วุฒิสภาเพื่อตรวจสอบประวัติ และเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบภายใน 15 วัน กมธ.ยกร่างฯยังเพิ่มคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรี ต้องแสดงรายการเสียภาษีย้อน หลังเป็นเวลา 3 ปี ต่อประธานวุฒิสภาด้วย
เสริมอำนาจผู้นำรัฐบาลผสม
นายคำนูณกล่าวต่อว่า มาตรา 180 กำหนดให้นายกฯและรัฐมนตรี มีหน้าที่เข้าร่วมประชุมสภาฯ วุฒิสภาและรัฐสภา โดยให้ถือเป็นภารกิจสำคัญเหนือภารกิจอื่นใด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมหรือขัดต่อรัฐ– ธรรมนูญ เป็นเหตุนำไปสู่การถอดถอนได้ และยังเพิ่มมาตรการสร้างเสถียรภาพให้แก่รัฐบาล เพราะเชื่อว่าระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จะเป็นรัฐบาลแบบผสม ซึ่ง ส.ส.พรรคร่วมอาจกดดันการทำหน้าที่ของรัฐบาล กมธ.ยกร่างฯจึงออกแบบเปิดช่องให้นายกฯมีอำนาจปราม ส.ส.ที่มากดดันการทำงาน ด้วยมาตรา 183 คือให้นายกฯขอความไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินจากสภาฯได้ โดยประธานสภาฯต้องจัดให้มีการประชุมภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่นายกฯยื่นเรื่อง และในกรณีที่มติไว้วางใจมีคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาฯ นายกฯจะกราบบังคมทูลให้พระมหา– กษัตริย์ทรงยุบสภาฯก็ได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการผลักดันกฎหมายที่สำคัญ ไว้ในมาตรา 184 ในกรณีพรรคร่วมรัฐบาลต้องการต่อรองทางการเมือง
“บิ๊กโด่ง” ปัดตอบกองทัพมีเอี่ยว
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดที่มาของ ส.ว.ชุดใหม่ 200 คน ให้มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม ซึ่งมีสัดส่วนกรรมการสรรหาจากกองทัพ ทั้งอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม อดีต ผบ.ทหารสูงสุด อดีต ผบ.เหล่าทัพ ว่ายังไม่สามารถให้ข้อมูลตรงนี้ได้ ต้องได้รับความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก่อน คงต้องรอ
รุมค้านประเคนอำนาจให้ล้นฟ้า
นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีต ส.ว.นนทบุรี กล่าวว่า โดยหลักการ ส.ว.สรรหาควรมีอำนาจเฉพาะพิจารณากลั่นกรองกฎหมายเพียงอย่างเดียวจึงจะถูกต้อง ไม่ควรมีอำนาจอื่นร่วมด้วย ทั้งการพิจารณาแต่งตั้งหรือโยกย้าย ข้าราชการ หรือบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่หลักการของ ส.ว.สรรหา และส่วนตัวเห็นว่า ควรให้มี ส.ว.เลือกตั้งต่อไป เพราะถือเป็นตัวแทนที่มาจากประชาชนโดยตรง จึงจะมีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนได้
ปชป.ซัดทำลายหลักการถ่วงดุล
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แนวคิดของ กมธ.ยกร่างฯว่าหากรัฐบาลแพ้โหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นแนวคิดของบางคนที่ต้องการให้อำนาจฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลมีความเข้มแข็ง แต่เคยถูกคัดค้านว่าเป็นกึ่งประธานาธิบดี แนวคิดนี้จึงตกไป แต่กลับมีการสอดแทรกเข้ามาอีก ต่อไปฝ่ายค้านจะไม่กล้าโหวตล้มรัฐบาล เพราะรู้ว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่ รวมไปถึงการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญๆในอนาคต ที่ฝ่ายค้านทำได้เพียงการอภิปรายฯเท่านั้น ไม่กล้าโหวตควํ่าร่างกฎหมาย จึงถือเป็นการทำลายหลักการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจ จึงเป็นหลักคิดที่พิกลพิการในรัฐธรรมนูญ
ฟันธงร่างกติกาตั้ง รบ.แห่งชาติ
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า ฟันธงเลยว่าการวาง แนวคิดกำหนดหลักการเช่นนี้ เพื่อบีบให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ที่หลายพรรคจับมือกันเป็นรัฐบาลผสมที่มีเสียงข้างมากและยากต่อการล้มรัฐบาล แม้จะมีพรรคเล็กบางพรรคออกจากการเป็นพรรคร่วม ก็จะมีพรรคอื่นเสียบเข้ามาแทน จึงน่าเป็นห่วงเพราะมีหลายอย่างที่สวนทางกับข้อเท็จจริง
“จุรินทร์” แย้งลดบทบาทรัฐสภา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ฝ่ายบริหารโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี การกำหนดแบบนี้ทำให้แม้แต่ฝ่ายค้านเองยังแทบไม่อยากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกยุบสภาไปด้วย ทั้งที่ควรกำหนดให้นายกฯและคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งก็พอแล้ว ไม่ควรให้ยุบสภา เพราะยุบไปฝ่ายบริหารหน้าเดิมก็อาจกลับเข้ามาใหม่ผ่านการเลือกตั้ง ส่วนข้ออ้างว่ายังมีช่องทางอื่นตรวจสอบรัฐบาล เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่ากับต้องการลดบทบาทอำนาจสภาหรือไม่ ทั้งที่การตรวจสอบโดยระบบสภาคือ ความโปร่งใสที่ประชาชนทั้งประเทศสามารถรับรู้ได้ อยากให้ กมธ.ยกร่างฯ ทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“ปึ้ง” ข้องใจจ้องบอนไซการเมือง
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกำหนดให้มีแต่ ส.ว.ลากตั้ง 200 คน ถามว่าจะได้คนที่มีความรู้ มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดี ไม่เล่นพรรคเล่นพวกได้อย่างไร ใครจะเป็นผู้รับประกันหากพิสูจน์ได้ว่า ส.ว.ที่สรรหาเข้ามาเป็นคนไม่ดี คนที่เลือกเข้ามาต้องมีโทษอาญาหรือไม่ และการกำหนดวาระให้อยู่ได้ 6 ปี ขณะที่ ส.ส.มาจากการเลือกตั้งยังอยู่ได้แค่ 4 ปี มันเอาเปรียบกันมากเกินไปหรือไม่ ยิ่งได้ ส.ว.ที่แบ่งสีแบ่งฝ่ายยิ่งสร้างปัญหาให้บ้านเมืองไม่จบสิ้น โดยเฉพาะหากพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ไม่ใช่พวกเดียวกับ ส.ว. หรือถ้ามีคนสั่งให้ ส.ว.ซ้ายหันขวาหันได้ รัฐบาลก็บริหารราชการแผ่นดินลำบาก ประเทศไทยจะประสบปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นเวรกรรมของประเทศ แบบนี้คงไม่เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริงในไทย
ประชาธิปไตยของไทยจบลงแล้ว
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกำหนดให้มี ส.ว.สรรหา 200 คน แบบนี้จะเรียกประเทศประชาธิปไตยอีกไม่ได้ หากคนกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่สามารถควบคุมได้ตั้งแต่การแต่งตั้งรัฐมนตรี จะเป็น อันตรายต่อประเทศระยะยาว ทั่วโลกไม่ยอมรับ ทำให้คำว่าประเทศประชาธิปไตยของไทยจบลง คนคิดเรื่องนี้ควรทบทวนว่าการสร้างกติกาเช่นนี้เป็นการทำร้ายประเทศหรือไม่ เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว มองแต่อนาคตตัวเอง ไม่มองอนาคตประเทศไทยว่าต่างชาติจะยอมรับหรือไม่ และเชื่อว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะไม่สามารถแก้ไขระบบนี้ได้ เพราะคงมีการวางกลไกรัดกุมมากเพื่อไม่ให้มีการแก้ไข อย่างที่ผ่านมา การเปลี่ยนให้ ส.ว.สรรหามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ทุกคนยังโดนคดีหมด
ปล่อยผี 111-109 แค่ละครลวงโลก
นายวรวัจน์กล่าวว่า การกำหนดให้ผู้ลง ส.ส. ต้องแสดงภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปีต่อ กกต.นั้น เป็นการทำให้ระบบตรวจสอบทำร้ายผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง และไม่เชื่อว่าระบบนี้จะช่วยสกัดคนทุจริตไม่ให้เข้ามาในระบบการเมืองได้ เพราะระบบภาษีของประเทศไทย ยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีใครทำถูกต้องทั้งหมด อย่างการกรอกบัญชีก็อาจไม่สมบูรณ์ ส่วนการเปิดโอกาสให้บ้านเลขที่ 111 และ 109 ลงเล่นการเมืองได้นั้น มองว่าไม่มีประโยชน์ เพราะกระบวนการทุกอย่างถูก ควบคุมหมดแล้ว เป็นเพียงละคร เป็นการเปิดกับดัก โดดลงไปเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น
มีแต่พวกไม้ประดับฉาบหน้า
นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต ส.ว.ตาก คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกำหนดให้ ส.ว. 100 คน มาจากกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิหลายด้าน ผ่านกระบวนการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาสมัชชาพลเมือง และองค์กรท้องถิ่น เป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น เพราะกลุ่มคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่คัดเลือกสมัชชาพลเมืองอาจเป็นพวกเดียวกับผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ส่วนกลุ่ม ส.ว.ที่ได้เข้ามาแน่ๆคือกลุ่มที่มาจากสาขาอาชีพ อาทิ อดีตนายกฯ อดีตข้าราชการระดับสูง ทั้งพลเรือนและทหาร สุดท้ายกระบวนการที่จะได้มาซึ่ง ส.ว. 200 คน ไม่ต่างอะไรกับ ส.ว.แต่งตั้ง เพียงแต่มีกระบวนการที่หลากหลายเท่านั้น
ถามรู้จักหิริโอตตัปปะกันไหม
นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ประธาน นปช.ภาคตะวันออก กล่าวว่า คนที่กำลังเขียนรัฐธรรมนูญอยู่ขณะนี้ ควรไปลงสมัครรับเลือกตั้งให้ได้เป็น ส.ส. สักสมัยก่อน จะได้รู้การทำงานในสภาฯควรเป็นอย่างไร ถามว่าจะเข้ามาปฏิรูปอะไร เพราะทั่วโลกเอาประชาชนเป็นใหญ่ ให้คนที่ประชาชนเลือกเข้ามาเป็น ส.ส.กันทั้งนั้น คนที่เข้ามาปฏิรูปยังไม่รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร เขาตั้งเป้ามาให้แบบนี้ก็จะเดิน ไปแบบนั้น ไม่มีความละอาย หิริโอตตัปปะไม่รู้จักกันเลยหรือ มาตะแบงแล้วบอกว่าให้ปรองดองกัน มันจะทำได้อย่างไร ฝ่ายหนึ่งยังลอยนวล แต่อีกฝ่ายไปไหนมาไหนยังต้องคอยขออนุญาต หลอกเด็กอาจจะได้แต่หลอก ส.ส.ไม่ได้หรอก อย่าเขียนรัฐธรรมนูญให้สุดโต่งจนคนรับไม่ได้ สมัยเด็กไม่เคยเรียนเรื่องศีลธรรมบ้างเลยหรือ
ดักคอเหมือนรู้ใครจะเป็นรัฐบาล
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ กมธ.ยกร่างฯกำหนดให้รัฐบาลต้องยุบสภาหากแพ้โหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่าขัดหลักการสภานิติบัญญัติโดยสิ้นเชิง เขียนเหมือนรู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดหน้า เขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้เหมือนมัดมือมัดเท้าฝ่ายนิติบัญญัติ ผิดหลักสากลชัดเจน เอาฝ่ายนิติบัญญัติไปพันกับฝ่ายบริหาร รัฐธรรมนูญแบบนี้มีแต่จะสร้างปัญหาในอนาคต
นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.กล่าวว่า ปัญหาคือ ส.ส.จำนวนมากไม่อยากต้องไปเลือกตั้งใหม่บ่อยๆ เพราะเหนื่อย เสี่ยง และค่าใช้จ่ายเยอะ การเขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้ทำให้ ส.ส.หลายคน โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่อยากลงมติไม่ไว้วางใจ แต่กลัวว่ารัฐบาลอาจแพ้แล้วต้องยุบสภา ทำให้ตัวเองซวยไปด้วย ทำให้ ส.ส.กังวลที่จะโหวตตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้
เด็ก ชพน.ของขึ้น “น่าอดสูที่สุด”
นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า การที่ กมธ.ยกร่างฯกำหนดให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม และให้มีอำนาจมากขึ้น ขอแสดงความไว้อาลัยต่อ กมธ.ยกร่างฯที่ร่วมกันยกร่างสนองตอบอำนาจเผด็จการที่รุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเองและพวกพ้อง เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจและน่าอดสูที่สุด ไม่เห็นหัวประชาชน อยากให้คนไทยทั่วประเทศจารึกรายชื่อ กมธ.ยกร่างฯไว้ ให้เยาวชนเห็นว่าเป็นผู้ที่ทำลายบ่อนเซาะประชาธิปไตย ขอให้ทบทวน ที่ผ่านมาอำนาจนอกระบบและนิติบริกร สร้างกติกาทำให้การเมืองล้มเหลวมาหลายครั้ง วางกับดักก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้การเมืองอ่อนแอ ดังนั้นขอให้คืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับประเทศโดยเร็ว
“นิคม” เย้ยยิ่งกว่าสภาผัว-เมีย
นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวว่า การกำหนดให้มีแต่ ส.ว.ลากตั้ง 200 คน เป็นเรื่องอันตราย ที่ลดอำนาจประชาชนเพิ่มอำนาจให้อดีตข้าราชการของรัฐ ยิ่งกลายเป็นพรรคการเมืองของข้าราชการขนาดใหญ่ และอันตรายกว่าคำว่าสภาผัวเมียอย่างที่เคยว่ากันไว้ เนื่องจากการปฏิบัติงานจะพัวพัน ถูกใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะผู้ตรวจสอบกับผู้ถูกตรวจสอบมาจากแหล่งที่มาเดียวกัน คนเขียนรัฐธรรมนูญรอบนี้เคยออกแบบหรือลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแล้ว ย่อมทราบและรู้ดีว่าเขียนรัฐธรรมนูญแบบไหนจะเกิดผลแบบใด และกำหนดว่าหากนายกฯแพ้โหวตไม่ไว้วางใจต้องยุบสภานั้น เป็นตรรกะที่ไร้เหตุผล และเป็นไปไม่ได้ เพราะมันหยิกเล็บแล้วเจ็บเนื้อ
“บิ๊กตู่” พร้อมเป็นพยาน “มาร์ค”
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุช่วงเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงปี 2553 มี พล.อ.ประยุทธ์ สมัยดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สมัยเป็น ผบ.ทบ.และรอง ผอ.ศอฉ.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สมัยเป็น รมว.กลาโหมขณะนั้น รับรู้ข้อมูลโดยตลอด ว่า ถ้าจะให้ตนไปเป็นพยาน กระบวนการยุติธรรมว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น เมื่อถามว่าพร้อมไปเป็นพยานใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ว่าตามนั้น ถ้าไปได้ก็ไป จะจำเป็นหรือไม่ยังไม่รู้เหมือนกัน กลไกว่าอย่างไร ตอนนี้เป็นนายกฯนะ
จะพูดอีกไหมว่าไล่ล่าข้างเดียว
เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เชิญไปให้ปากคำ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า พร้อมให้ข้อมูล แต่บางครั้งไม่ต้องไปเองส่งเป็นเอกสารไปก็ได้ อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่โตเลยว่าแล้วมันจะยังไง ทำไมไม่สนใจ ทำไมทำข้างนี้ ทำไมไม่พูดว่าทำทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่ต้นบอกว่าทำไมไล่ล่าข้างเดียว ยืนยันไม่ได้เป็นการไล่ล่าข้างเดียว ใครทำผิดกฎหมายก็ว่ามา ใครที่แก้ข้อกล่าวหาได้ก็จบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เมื่อถามว่า เป็นโอกาสได้เคลียร์คดีนี้เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามพร้อมหันหลังเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
ตะโกนใส่มีชายชุดดำยิงทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่าคดีนี้จะเดือดร้อนไปถึงกองทัพหรือไม่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หันกลับมาย้อนถามทันทีว่า จะเดือดร้อนเรื่องอะไร เจ้าหน้าที่เขาก็ทำงาน ที่ผ่านมาก็มีการรายงานการสอบสวนมาตลอดทุกครั้ง ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมด ตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนมีการดำเนินการไปครั้งหนึ่งแล้ว รัฐบาลที่แล้วก็ปรับปรุงแก้ไขอีกส่วน จะได้หรือไม่อย่างไรต้องไปดูในข้อเท็จจริง เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ตะโกนถามมายังกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า “ขอถามข้อเท็จจริงว่ามีคนใช้อาวุธในประชาชนหรือเปล่า มีหรือเปล่าขอให้พูดดังๆ มีชายชุดดำอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงหรือเปล่า และมีคนยิงใส่ทหารหรือเปล่า ถ้ามีก็จบ”
เมื่อถามถึงกรณีสั่งให้หน่วยงานเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วภายใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการดูแลเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมืองทำมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว รัฐบาลชุดนี้จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล
“บิ๊กป๊อก” บอก ป.ป.ช.ยังไม่เรียก
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือที่นายกฯสั่งให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศูนย์ปรองดองเพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ดำเนินการช่วยเหลือผู้มีลำเนาแต่ละจังหวัด และยังไม่ทราบเรื่องที่ ป.ป.ช.อาจขอให้ไป ให้ปากคำคดีการสลายการชุมนุมทางการเมืองปี 53 ยังไม่มีการทำหนังสือมาถึงตนแต่อย่างใด
“ปนัดดา” รับลูกเร่งเยียวยาด่วนจี๋
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2556-2557 ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ โดยกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องมาพูดคุยกันเพื่อหาหนทาง ทำให้เกิดความปรองดองขึ้น อย่างไรก็ตาม การเยียวยาได้มี การกำหนดไว้หมดแล้วว่าจะต้องพิจารณาองค์ประกอบอะไรบ้าง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งปรึกษาหารือกันเพื่อให้เกิดการปฏิบัติโดยเร็วที่สุด และต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอยู่ตลอด ตามกฎระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำแล้วว่า ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและถูกต้อง
ส่งข้อหาสั่งสลายแดงสัปดาห์หน้า
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาคดีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณี การสั่งสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการรับรองมติดังกล่าวจากที่ประชุม ป.ป.ช. คาดว่าสัปดาห์หน้าจะส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยังนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพได้ ทราบว่าทั้งสองคนพร้อม มาแก้ข้อกล่าวหาอยู่แล้ว หากผู้ถูกกล่าวหาขอให้สอบ พยานเพิ่มหลายปาก ป.ป.ช.จะนำมาพิจารณาว่าพยาน ที่อ้างถึง เกี่ยวข้องกับคดีที่ไต่สวนหรือไม่ หากเป็น พยานที่ฟุ่มเฟือยไม่เกี่ยวกับคดี สามารถตัดทิ้งได้ ส่วน รายชื่อพยานที่นายอภิสิทธิ์อ้างถึงนั้น ป.ป.ช.จะนำมาพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเรียกมาให้ข้อมูลหรือไม่
“มาร์ค” โวพร้อมสู้ตามขั้นตอน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างเป็นประธานงานปิดทองฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมาวัดภูเขาทอง ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ว่า กรณีที่ ป.ป.ช.มีมติสั่งฟ้อง ตนและพระสุเทพนั้น ตนและพระสุเทพเคารพมติและการตัดสินของ ป.ป.ช. จะไม่โต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกประการ ส่วนการที่พวกตนไม่ยอมรับการฟ้องร้องของดีเอสไอ เพราะเป็นข้อกล่าวหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในการสั่งสลายการชุมชนจนศาลยกฟ้องในที่สุด แต่การสั่งฟ้องของ ป.ป.ช.เป็นไปตามขั้นตอน เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ยัง เป็นห่วงนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นแนวทางการบริหารงานของรัฐบาล และ คสช.อย่างบริสุทธิ์ใจ แต่เห็นว่านายนิพิฏฐ์ทำหน้าที่ที่ถูกต้องแล้ว
กปปส.จี้รัฐจ่ายเยียวยา 7.75 ล้าน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวถึงการทำหนังสือทวงถามรัฐบาลกรณีจ่ายชดเชยเยียวยาแก่เหยื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 56-57 ว่า ยืนยันว่าเราชุมนุมด้วยความสงบตามรัฐธรรมนูญ ควรได้รับการเยียวยาตามหลักเกณฑ์ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตรายละ 7.75 ล้านบาท ดังนั้น ผู้สูญเสียจึงสมควรได้รับการ เยียวยาเหมือนในอดีต เพราะการเยียวยาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างความปรองดอง
นายกฯเปิดงาน “ปณิธานความดี”
เวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานเปิดโครงการ “ปณิธานความดี ปีมหามงคลทำดี เริ่มได้ ที่ใจเรา” โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดโครงการว่า เพื่อให้ทุกคนตั้งปณิธานทำคุณความดี 1 อย่างต่อตนเอง สังคม และแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นของขวัญ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในช่วงเวลาที่เป็นมงคลฤกษ์ ระหว่างปี 2558-2560 เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยทำปณิธานความดี เพื่อแสดงความจงรักภักดี ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซต์ www.panithand.com  และwww.facebook.com/panithand 
ขอทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง
ต่อมาภายในงานฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่น เปรียบเทียบตัวละครระหว่าง คุณ “สมชาย” ที่ตื่นเพื่อทำงานแต่เช้าแล้วประสบความสำเร็จ และคุณ “สมนึก” ที่นอนดึกตื่นสายส่งผลการทำงานมีปัญหา โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุณ “สมชาย” มาจาก ชื่อย่อของ คสช. ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ตนรู้ตัวค่อนข้างโมโหเร็ว พูดจาไม่ไพเราะ แต่ตั้งใจดี จากนี้จะไม่ให้โมโหมากกว่าเดิม ขอให้ใช้ชาติ ศาสนา พระมหา– กษัตริย์ เป็นที่ตั้งในการปณิธานทำความดี นึกถึงคนอื่นบ้างไม่หวังกำไรอย่างเดียว นโยบายอะไรออกมา ยังไม่ได้ทำก็ขัดแย้งแต่ต้นแล้ว รัฐบาลสั่งการไปมากมายร้อยแปดพันอย่าง แต่ผลกลับมามีปัญหา ไม่อยากกล่าวโทษใคร แต่ก็ต้องขอบคุณที่ช่วยกัน วันหน้าคงไม่มีคุณสมชายอีกแล้ว ไม่เคยฝันดีๆ เลย ไม่ได้มาทำลายประชาธิปไตย แต่มาประคองประชา– ธิปไตยที่กำลังทรุดให้ฟื้น
สนช.รับหลักการ ก.ม.ชุมนุมฯ
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ วาระแรก ซึ่งมีสาระสำคัญเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจน โดยผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะให้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และให้ระบุวัตถุประสงค์ ระยะเวลา สถานที่ชุมนุม ให้ชัดเจน ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกการชุมนุม ส่วนบทลงโทษมีหลายกรณี โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี โดยที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรก ด้วยคะแนน 182 ต่อ 0 โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา 22 คน พิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. กล่าวว่า แม้กฎหมายนี้จะผ่านสนช.ไปแล้ว แต่จะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อยกเลิกกฎอัยการศึก
เผย คกก.ร่วมสัมปทานครบแล้ว
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯและปลัดสำนักนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการร่วมกรณีเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ว่า อยู่ระหว่างกำหนดช่วงวันเวลาอยู่ว่าจะประชุมได้เมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ต้องรอฝ่ายรัฐและภาคประชาชนเห็นตรงกัน แล้วจะใช้ทำเนียบฯเป็นที่ประชุม เมื่อถามว่าภาคประชาชนระบุว่ายังไม่เห็นหนังสือเชิญเป็นคณะกรรมการร่วมอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า โดยภาพรวมค่อนข้างชัดเจน หนังสือเชิญคณะกรรมการร่วมฯก็ส่งให้ครบแล้ว
ทำเนียบฯเปิดตลาดข้าว 5 มี.ค.
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง เปิดเผยภายหลังประชุมการจัดงาน “วิถีข้าว วิถีไทย Thai rice : Thainess” ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ต้องการส่งเสริมสินค้าเกษตรคุณภาพของไทยเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์พืชผลการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกร โดยงานวิถีข้าวไทย เริ่มแต่วันที่ 5 มี.ค.-5 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.ที่บริเวณถนนด้านข้างทำเนียบฯริมคลองผดุงกรุงเกษม โดยนายกฯเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 5 มี.ค. เวลา 17.00 น. ภายในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการข้าว ไฮไลต์มหัศจรรย์ข้าวไทย และมีการประกอบอาหารจากเชฟมืออาชีพ
มั่นใจสหรัฐฯส่งทูตประจำไทยแน่
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เข้าพบนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติปกติ ส่วนการชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นหน้าที่อยู่แล้ว แต่จะทำมากน้อยหรือบ่อยเพียงใดอยู่ที่โอกาส ภาพรวมสหรัฐฯมีความเข้าใจไทยดีขึ้น ยังติดต่อธุรกิจการค้าเหมือนเดิม ส่วนความคืบหน้าการส่งทูตมาประจำประเทศไทยของสหรัฐฯยืนยันมาแน่นอน ก่อนที่จะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งด้วย เหตุที่ว่างเว้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
“บิ๊กเจี๊ยบ” ย้ำไทยไม่ฉวยโอกาส
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวยืนยันถึงความสัมพันธ์ไทยและสหรัฐฯในขณะนี้ ว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ดีปรารถนาดีต่อกัน ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง ดังนั้น บางเรื่องไม่จำเป็นต้องฉวยโอกาส เมื่อถามถึงการแสดงความกังวลจากต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ตอบว่า กระทรวงการต่างประเทศพร้อมชี้แจงหากหน่วยงานหรือประเทศใดมีข้อสงสัย สอบถามมาได้โดยตรง ยืนยันว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ ความร่วมมือระหว่างไทยกับมิตรประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
น้อมรับสั่งฯอย่าเกลียดใคร
วันเดียวกันเวลา 14.00 น. ที่อาคารตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานมอบ โล่ให้ 10 บริษัท ที่เข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนระดับโลกหรือดาวโจนส์ โดยกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ธุรกิจไทยขับเคลื่อนสู่ความมั่งคั่งยั่งยืนด้วยมาตรฐานสากล” ว่า เรื่องกฎหมายเห็นเถียงกันทุกวัน มันจะได้หมดไม่ได้ ต้องมีคนลดลงบ้างอีกคนเพิ่มขึ้นบ้าง รู้ทุกคนตั้งใจดีอยากปฏิรูปประเทศให้เข้มแข็ง ให้ได้รับการยอมรับ ดังนั้นไม่ว่าใครจะรักใครชอบใครห้ามไม่ได้ ท่านจะเกลียดตนก็ไม่รู้ หรือคนที่ตน เกลียดเขาก็ไม่รู้ ฉะนั้น อย่าอยู่ด้วยความเกลียด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนไว้ รับสั่งไว้ว่า “เธออย่าไปเกลียดใครเขามากนักอย่า เกลียดใครอย่างเดียว ถ้าเขาไม่ดีเติมส่วนที่ดีให้กับเขา หาส่วนดีเขาสักส่วนหนึ่งหาอะไรเติมให้เขา ค่อยๆ พูดกับเขาอาจจะดีขึ้นมาก็ได้ ต้องอยู่กันด้วยความเมตตา”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยต้องอยู่ด้วยกฎหมาย อย่าไปพูดว่าลำเอียง ทำมาเพื่อจะขจัด ใครดีก็ว่าไป สู้คดีได้ก็สู้ไป ส่วนที่จะให้ตนเป็นพยาน อาจส่งเป็นเอกสารก็ได้มั้ง ต้องช่วยกันสร้าง ความเข้าใจ ทำให้บ้านเมืองไปได้ ให้ความเป็นธรรม กับทุกคน ถ้าใครก็ตามเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมมันจบทั้งหมด จะผิดจะถูกก็ว่ากันต่อไปต้องยอมรับ หาให้ได้ก่อนว่าอะไรมาจากอะไร
มั่นใจไตรมาส 2 เบิกจ่ายลื่นปรื๊ด
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีครม.เศรษฐกิจอนุมัติงบฯ 4 หมื่นล้าน เพื่อก่อสร้างถนนทั่วประเทศว่า เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั่วประเทศ หากเราไม่มองภาพทั้งระบบคงไปไม่ได้ การขยายการค้าการลงทุนต้องพร้อมทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของสาธารณูปโภค เมื่อถามว่าการจ่ายงบฯที่ล่าช้า จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ที่ผ่านมาของรัฐบาลเป็นปกติ มีขั้นตอน กว่าจะเบิกจ่ายได้ต้องผ่าน 6 ขั้นตอน จึงสั่งให้ลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น สอนการเรียนรู้การบริหารราชการแผ่นดินสมัยใหม่ให้กับองค์กรการบริหารส่วนท้องถิ่น เจ้า หน้าที่ระดับล่างให้เข้าใจตรงกัน เชื่อว่าการเบิกจ่ายจะเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องเกียร์ว่างเพราะมีทั้ง คสช.-กระทรวงลงไปในพื้นที่ ประกอบกับต้องรายงานให้นายกฯทราบทุกเดือน ถ้าทำตามกติกาและตั้งใจทำก็ไม่ต้องกลัวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน
หุ้นแกว่งหนักรับนายกฯเยือน ตลท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า ดัชนียืนอยู่ในแดนบวกได้เพียง 20 นาทีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถูกแรงเทขายลงมากดดัชนี ปรับตัวลงแดงเถือกตลอดทั้งวัน แม้ในระหว่างวันจะมีการส่งข้อความเผยแพร่ไปในไลน์ของกลุ่มนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจนักลงทุนว่า “ช่วงบ่ายนายกฯจะไปตลาดหลักทรัพย์ น่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้”แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงปรับตัวลงแรง แต่สุดท้ายเพียง 15 นาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด กลับมีแรงซื้อเข้ามาดันดัชนีหุ้นไทยให้ทะยานขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
พท.เตือนสัญญาณ ศก.อันตราย
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยห่วงใยเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มย่ำแย่ชัดเจน จากการส่งออกช่วงเดือน ม.ค.ติดลบถึงร้อยละ 3.46 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งที่มีการประท้วงของกลุ่ม กปปส. หากไตรมาสแรกปีนี้ยังติดลบอีก จะแสดงถึงการถดถอยของเศรษฐกิจไทยและประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด ทำให้โอกาสที่การส่งออกทั้งปีจะขยายตัวได้ร้อยละ 4 ตามที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯยืนยัน แทบเป็นไปไม่ได้ อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน โดยเฉพาะประชาชนจำนวนมากที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นตามที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลออกมาให้ความมั่นใจ แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่พูด คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยยังมั่นใจว่าการเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วเพื่อสร้างความมั่นใจของต่างประเทศ เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
นศ.กดดัน “สมคิด” ทบทวนคำสั่ง
เวลา 17.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต (มธ.) กลุ่มนักศึกษาในนามกลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์ นำโดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มธ. นัดรวมตัวกันบริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ คัดค้านคำสั่งนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. ที่ลงนามให้ไล่ออกจากราชการ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะสังคมศาสตร์ พร้อมอ่านแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว โดยชี้ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ จากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เพลง 24 มิถุนาประชาธิปไตย และจุดเทียนกลางแดด ใต้ฐานอนุสาวรีย์ ดร.ป๋วย อ้างว่าเพื่อให้ แสงสว่างทางวิชาการกลับคืนสู่ธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มนักศึกษาพร้อมใจกันลงชื่อขอให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าว และเตรียมนำรายชื่อเสนอต่อนายสมคิด ในวันที่ 27 ก.พ. ทั้งนี้ ระหว่างการทำกิจกรรมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบนับสิบนาย มาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ


โดย www.tuewsob.com  

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องเตรียมสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา) 
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkruthailand.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 


ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)  

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม