เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)

- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html

- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF

- เพลงปลุกใจเพื่อชาติ 

https://drive.google.com/file/d/0B-_vZWX_y7IMR1ItUTI2ZG85OGs/edit?usp=sharing

- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว 

โดย สมศ.

http://www.onesqa.or.th/onesqa/th/publish/detail.php?SystemModuleKey=NewsPublish&ID=2774

- เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอก รอบสี่ (พ.ศ.2559-2563)

http://tuewsob.blogspot.com/2014/06/3-5-7-20.html

- ระบบควบคุมภายใน 2557

https://drive.google.com/file/d/0B8Hlie0mNhcCTEMzcl9DZlVFYnc/edit?usp=sharing

- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557

https://drive.google.com/file/d/0B8Hlie0mNhcCbTBSV0cxVUdEcnc/edit?usp=sharing

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด

ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 (  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 

https://docs.google.com/forms/d/1Y1q_ndQeIQInknKBW9OvqkLc-lD2YJAmrUPofAVxc_I/viewform

ตีแผ่ 'ดาราเลี่ยงภาษี' เมื่อคนไทยถูก 'เอาเปรียบ' ไม่รู้ตัว

เคยเป็นประเด็นเกรียวกราวกันอยู่พักหนึ่งกับกระแสดาราเลี่ยงภาษี ซิกแซ็กทุกทางเพื่อจะจ่ายภาษีกลับคืนแผ่นดินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเลี่ยงได้ แต่สุดท้ายเรื่องราวนี้ก็หายไปตามสายลม...คนที่เคย "เสียงดัง" ลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่าทำไม! ดาราที่รายได้มากมายต้อง "เอาเปรียบ" ประชาชนก็ "เสียงเบา" ลง ชนิดที่ลืมกันไปง่ายๆ ว่าครั้งหนึ่งตนเองเคยตั้งคำถามนี้

สกู๊ปบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ สัปดาห์นี้จะมากระตุ้นให้เห็นอีกครั้งว่า "ดารารายได้เยอะ" บางคนเขา "เอาเปรียบ" เราอย่างไร?

คำว่าดารารายได้เยอะ...เยอะแค่ไหน? คำถามนี้เทียบไม่ยากเอาแค่งานอีเวนต์หนึ่งงาน

ดาราระดับพระเอก-นางเอกรับอีเวนต์ 2 ชั่วโมง ค่าตัวที่ได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท บางรายดังขั้นซุปตาร์ฟาดกันไม่ต่ำกว่า 150,000 บาทต่องาน

ประชาชนเดินดินกินข้าวแกงเอาค่าเฉลี่ยง่ายๆ จบปริญญาตรีรายได้เดือนละ 15,000 บาท (ซึ่งยังมีประชาชนอีกมายมากที่รายได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยนี้) ทำงานทั้งปีถึงจะได้เงินเท่าดาราซุปเปอร์สตาร์ที่ไปออกงานอวดความสวยหล่อ 2 ชั่วโมง!

นี่ยังไม่รวมรายได้จากการแสดง การขึ้นคอนเสิร์ต งานพรีเซ็นเตอร์ ฯลฯ อีกมากมายของดารา

แต่เอาเป็นว่าประเด็นดารารายได้มากกว่าคนธรรมดาอย่างมหาศาลนี้ เราไม่ขอหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อถกเถียง เพราะคนหนึ่งคนกว่าจะขึ้นมาเป็นดาราดังค่าตัวแพงได้ นอกจากหน้าตาและความสามารถแล้ว บุญวาสนาก็มีส่วน ฉะนั้นการก้าวขึ้นมาเป็นดาราดังรายได้ดี จึงไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้

ที่สำคัญดาราแต่ละคนกว่าจะทำให้ตนเองโด่งดังจนก้าวขึ้นสู่จุดที่ "ชื่อเสียง" มี "มูลค่า" ได้นั้นต้องฝ่าฟันอะไรมามาก ซึ่งการฝ่าฟันในแต่ละช่วงชีวิตก็ถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่า นับเป็นคอร์ส (Cost) ที่ประเมินค่าไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เมื่อโด่งดังแล้วดาราจะใช้ชื่อเสียงปั๊มรายได้ให้กับตนเอง

แต่คำถามคือ...เมื่อก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้นอกจากความบันเทิงที่ดาราจะมอบคืนสู่สังคมได้แล้ว ดูเหมือนรายได้มหาศาลของเขาและเธอยังสามารถแปรเปลี่ยนเป็น "ภาษี" พัฒนาชาติได้มากมาย แต่ทำไมดาราบางคนต้องเลี่ยง?

ประเด็นดาราเลี่ยงภาษีที่เคยเป็นข่าวร้อน

อาจารย์ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ อาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาด้านกฎหมายชื่อดัง เปิดเผยกับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ว่า "ปกติภาษีที่ดาราต้องจ่าย ถ้าในกรณีเขาคือบุคคลธรรมดาก็มี ภาษีหัก ณ ที่จ่ายและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าเขามาในรูปแบบบริษัทนิติบุคคลก็จะมีในรูปแบบภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามา"

โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายนั้น ปกติเวลาดารานักแสดงไปดำเนินการรับจ้าง หรือพูดง่ายๆ ก็คือรับงานแสดง งานโชว์ตัว งานถ่ายแบบ ฯลฯ ก็จะมีการหักภาษีในเรื่องค่าจ้างทำของ ร้อยละ 3 (ส่วนใหญ่จะเลี่ยงใช้คำว่าค่าแสดง เพราะค่าแสดงจะหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 5) ซึ่งบางครั้งดาราก็ไม่ได้รับเองมีการใช้เอกสารของผู้อื่นให้รับแทน จุดประสงค์เป็นการกระจายรายได้เพราะเมื่อสิ้นปีรวมรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคล ดาราคนนั้นๆ ก็จะมีรายได้ไปคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายน้อยกว่าความเป็นจริง (เมื่อรายได้น้อยก็เสียภาษีน้อย) 

ส่วนเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจารย์ไพบูลย์ กล่าวว่า "เรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ผ่านมาที่ดาราทำก็อาจจะไม่ได้รับเอง แต่ตั้งคณะบุคคลขึ้นมา ซึ่งบางทีคณะบุคคลก็ไม่ได้เกี่ยวกับดาราคนนั้นเลย แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อหักภาษี ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง"

การมาในรูปแบบคณะบุคคลทำให้ยอดเสียภาษีของดาราลดลงใช่หรือไม่ เราถามข้อสงสัยนี้กับอาจารย์ไพบูลย์ "ใช่ครับเพราะว่าคณะบุคคลในทางภาษีถือว่าเป็นหน่วยภาษีอีกหน่วยหนึ่ง ซึ่งพอเป็นหน่วยภาษีอีกหน่วยนึงก็สามารถแบ่งค่าใช้จ่ายไปได้ สมมติว่า 10 ล้านก็แบ่งเป็นคณะบุคคลสัก 5 ล้าน ทำให้ยอดการเสียภาษีของดาราคนนั้นจากเดิมคำนวณจากยอด 10 ล้านก็จะเป็นใช้ยอด 5 ล้านมาคำนวณแทน ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีดาราบางคนใช้การตั้งคณะบุคคลโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศิลปินดาราโดนตรง บางทีก็ไปเอาชื่อคนรู้จักมาตั้ง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นเรื่องของการเลี่ยงภาษี"

และด้วยเหตุที่ดารานิยมใช้คณะบุคคลรับเงินแทนเพื่อเป็นช่องทางในการเลี่ยงภาษี ส่งผลให้สรรพากรไม่อนุญาตให้ใช้คณะบุคคลรับเงินแทน เอาชัดๆ ก็คือ ณ ตอนนี้ "ดาราไม่สามารถใช้คณะบุคคลมารับค่าจ้างแทนได้"

แต่นอกจากการเลี่ยงภาษีที่ผิดกฎหมายแล้วอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์บอกกับเราว่าดาราบางคนก็มีวิธีลดยอดภาษีที่ทำกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั่นก็คือการจัดบริษัทขึ้นมารับเงินค่าตัวและรายได้จากแหล่งต่างๆ "ดาราหลายคนเขาก็มีวิธีที่เขาทำถูก คือตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อมารับเงินและมีการทำบัญชีที่ถูกต้อง ตรงนี้นับเป็นการวางแผนภาษีอย่างนึง"

ไทยรัฐ ออนไลน์ถามต่อกับ อาจารย์ไพบูลย์ ว่า "การวางแผนภาษี" ซึ่งไม่ผิดกฎหมายกับ "การเลี่ยงภาษี" ที่ผิดกฎหมายต่างกันอย่างไร

"การวางแผนภาษีคือการใช้กรอบของกฎหมายที่มีอยู่มาวางแผนทางด้านภาษีโดยการแบ่งจำนวนรายได้ ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ไม่มีการปลอมแปลงเอกสาร

ซึ่งการวางแผนภาษีที่ถูกต้องสำหรับดาราก็คือการตั้งบริษัทขึ้นมา และเงินได้ของศิลปินดาราเป็นเงินที่จ่ายในนามเข้าบริษัท พอเข้าบริษัทของดาราไป ก็จะมี VAT ทางสรรพากรก็จะได้ VAT เพิ่มเติมเข้ามา แล้วบริษัทพวกนี้ก็จะมาคำนวณ ฐานภาษีโดยมีค่าใช้จ่ายไปหักได้

ตรงนี้คือเป็นการทำถูกกฎหมายที่มีการหักภาษีอย่างถูกต้อง แต่ถ้าเป็นการเลี่ยงภาษีก็จะเป็นในรูปแบบตั้งบริษัทขึ้นมาลอยๆ ไม่มีการทำจริง ใช้ชื่อบุคคลมารับแทน" ซึ่งความจริงที่น่าตกใจก็คือมีดาราบางคนตั้งบริษัทลอยๆ อย่างที่ว่าขึ้นมา

อาจารย์ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ

ที่ผ่านมามีดาราหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมพวกเขาต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าประชาชนทั่วไปอย่างมาก ในเมื่อพวกเขาก็เป็นคนธรรมดาที่ทำมาหาเลี้ยงชีพเหมือนกัน

คำถามนี้ อาจารย์ไพบูลย์ ให้คำตอบว่า "เพราะสรรพากรเขาถือว่าดารามีส่วนของเงินได้ที่มากกว่าประชาชนทั่วไป คุณก็ต้องเสียภาษีมากขึ้นเหมือนในส่วนของนักธุรกิจทั่วๆ ไปที่พอมีเงินได้ก็ต้องเสียตามฐานภาษี ที่เรียกกันว่าอัตราภาษีอัตราก้าวหน้า หรืออัตราภาษีแบบขั้นบันได"

"อัตราภาษีก้าวหน้า" อธิบายง่ายๆ ก็คือใครที่มีเงินได้มากขึ้นก็ต้องเสียเงินได้ให้รัฐมากขึ้น นี่เป็นหลักเกณฑ์สากลที่ใช้ทั่วโลก

คุณผู้อ่านอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าแค่ดาราเลี่ยงภาษีเล็กๆ น้อยๆ จะต้องเดือดร้อนอะไรกันหนักหนา...

งั้นลองมาดูคำตอบของ อาจารย์ไพบูลย์ เมื่อไทยรัฐออนไลน์ ถามว่า หากดาราไม่ซิกแซ็ก เลี่ยงภาษี ประเทศชาติจะได้เม็ดเงินจากตรงนี้เพิ่มขึ้นมาเท่าไร?

"ถ้าดาราเสียภาษีกันอย่างถูกต้อง แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่เลี่ยงสรรพากร ผมคิดว่าสรรพากรจะเก็บเงินเข้าประเทศได้มากขึ้นไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ทุกวันนี้ยอดภาษีเต็มๆ จากภาษีเงินได้ของดาราผมว่าหายไป 20-30 เปอร์เซ็นต์นะจากยอดจริงที่ควรจะได้"

ฉุกคิดให้ดีในภาพกระเป๋าหรู ดินเนอร์แสนแพง ปาร์ตี้วันเกิดอลังการ รถสปอร์ตคันงาม ไลฟ์สไตล์ชิคๆ ที่คุณเข้าไปกดไลน์ในอินสตาแกรมซุป'ตาร์บางคน (ดาราจ่ายเต็มแบบไม่เลี่ยงภาษีเขาก็มี)

หากเงินเหล่านี้ไม่มีการหมกเม็ด บางที 500 ล้านบาทต่อปีที่ประเทศควรจะได้ มันอาจกลายเป็นเงินภาษีที่จะมาช่วยสร้างคุณภาพชีวิตดีๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมแบบที่คุณควรจะได้รับมัน.

ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ

 อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com

ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ

ที่   http://tuewsobsupervisor.blogspot.com

... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา) 

ที่   http://tuewsobcasestudy.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

สมัคร  ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่

(  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 

https://docs.google.com/forms/d/1Y1q_ndQeIQInknKBW9OvqkLc-lD2YJAmrUPofAVxc_I/viewform

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

www.tuewsob.com